คอมพิวเตอร์ยุคเทคโนโลยี เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ถึงโปรแกรมเครื่องจะล้าหลัง แต่ฮาร์ดแวร์ อุปกรณ์ภายใน ก็ใช่ว่าจะไร้ประโยชน์ ไม่เหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทตู้เย็น ทีวี…เจ๊งแล้ว ซ่อมไม่ได้แล้ว…ก็ต้องทิ้ง ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ อาทิ…มอนิเตอร์หรือจอภาพ กว่าคุณภาพจะลดลงก็มีอายุใช้งานนานหลายปี…บางจออาจใช้ได้ 6-7 ปี ซีพียู, การ์ดในเครื่อง…ตกรุ่น ความเร็วต่ำ ไม่ทันสมัย…ก็อัพเกรดเป็นรุ่นใหม่
ดร.ขวัญฤดี โชติชนาทวีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายพลังงาน อุตสาหกรรมและสิ่งแวดล้อม สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย บอกว่า คอมพิวเตอร์ที่กลายสภาพเป็นขยะเทคโนโลยี ต้องพูดกันเป็นรายชิ้น ถ้าจะถามว่าปัจจุบันประเทศไทยมีปริมาณขยะคอมพิวเตอร์กี่มากน้อย ถึงวันนี้…ยังไม่มีข้อมูล ตอบไม่ได้ว่าขยะคอมพิวเตอร์มีปริมาณเท่าใดกันแน่ แต่ถ้าเทียบปริมาณเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานในปี 2544 อยู่ที่ 8 แสนเครื่อง …อัตรา 58 ครัวเรือนต่อ 1 เครื่อง และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแบบเส้นกระโดดทุกปี
“ปลายปี 2546…ประเมินว่า อัตราการใช้คอมฯอยู่ที่ 6 ครัวเรือนต่อ 1 เครื่อง…มาถึงต้นปีนี้ มีผลจากโครงการ…คอมพิวเตอร์เอื้ออาทร…คอมฯโปรโมชั่นของบริษัท ห้างร้าน…ไม่เกินปีหน้า โดยเฉพาะครอบครัวคนเมืองจะมีคอมพิวเตอร์ 1 ครัวเรือน…ต่อ 1 เครื่อง…”
ในต่างประเทศมีเทคโนโลยีสูง…คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง นำมารีไซเคิลได้เต็ม 100%…หมายความว่า ซีพียู หลอดภาพ ลายวงจร อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พลาสติกและโลหะ ถูกดึงกลับมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งหมด องค์ประกอบหลักของเครื่องคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง แยกตามประเภทวัสดุ ประกอบด้วย…แก้ว 24.9%, เหล็ก 24.5%, พลาสติก 22.8%, อะลูมิเนียม 14.2%, ทองแดง 7.0%, ตะกั่ว 6.3% และอื่นๆอีก 0.3%
โลหะในคอมพิวเตอร์…แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ มีโลหะหนักหลายตัวเป็นองค์ประกอบ ส่วนใหญ่มีมูลค่า แบ่งตามศักยภาพในการรีไซเคิลได้ 4 กลุ่ม
ตัวอย่างการรีไซเคิลที่เพิ่มมูลค่าขยะคอมพิวเตอร์ ได้มากกว่านำไปทำลายทิ้ง หรือฝังกลบหลายเท่าตัว…นำหลอดภาพบดกับซีเมนต์ ทำหินขัด อิฐบล็อกปูพื้น ทำผนังกันรังสีเอกซเรย์ หรือเซลล์บอโรซิลิเกต สำหรับภาชนะบรรจุของเสียนิวเคลียร์
ดร.ขวัญฤดี บอกว่า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บนแผงวงจรยิ่งมีค่า… นำมาสกัดเอาทองออกจากตะกั่ว ทองแดง โลหะ เทคโนโลยีนี้ประเทศไทยก็มี…มีโรงงานทำได้แต่ยังมีปัญหา…ขาดวัตถุดิบ
“เดิมทีคาดกันว่า…มีวัตถุดิบเหลือเฟือ ความจริงก็เป็นเช่นนั้น แต่ปัญหา… วัตถุดิบที่มีมาก ยังกระจายอยู่ในหลายพื้นที่ไม่ได้รวมกัน…ส่งมาป้อนให้โรงงาน”
ปัญหานี้…ต่างประเทศไม่มี ก็เพราะมีระบบการคัดแยกเป็นขั้นเป็นตอน อีกทั้งยังนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศมาเพื่อแยกในเชิงธุรกิจ เช่น ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย…ต่างประเทศรู้ดี…คอมพิวเตอร์ใช้วัตถุดิบเกรดเอทั้งสิ้น ไม่ว่า…พลาสติก อุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ ลายวงจร หรือโลหะชนิดต่างๆ นำมารีไซเคิลได้มูลค่ามากกว่า
ประเทศไทยก็ใช่ว่าจะไม่มีการรีไซเคิล โรงงานรีไซเคิลพลาสติก โรงงานสกัดทองออกจากโลหะ ประเทศไทยก็มีแล้ว แต่ที่ไม่มีเลยคือ…โรงงานรีไซเคิลจอภาพ เทคโนโลยีรีไซเคิลจอภาพต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านสูง โรงงานที่ทำจำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญจริงๆ…โรงงานประเภทนี้ รัฐจำเป็นต้องส่งเสริม แม้ว่าระบบรีไซเคิลในไทยยังไม่ครบสมบูรณ์ทุกชิ้นส่วน แต่ประเทศไทยก็ยังมีร้านรับอัพเกรดคอมพิวเตอร์ ปัจจัยสำคัญในการคัดแยกชิ้นส่วนเสีย…ตกรุ่น ที่ต่างประเทศไม่มี อะไหล่หลุดจากร้านจะเป็นอะไหล่ที่ใช้ไม่ได้แล้วจริงๆ ชิ้นส่วนเหล่านี้เองที่ต้องมีแหล่งเก็บ…มีระบบรองรับ อะไหล่ไปถึงร้านขายของเก่า ทิ้งรวมกับขยะทั่วไป ก็จะกองทิ้งอยู่แค่นั้น…บางส่วนปนอยู่กับขยะ กทม. ขยะเขต เป็นปัญหากับสิ่งแวดล้อม
“ขยะคอมพิวเตอร์…โดนน้ำ แดด ฝน…ถ้าเป็นฝนกรดก็แย่ ฝนกรดกัดกร่อนแผงวงจร ซึมพิษสู่ดิน…เจอน้ำเป็นด่างก็ละลาย ทำปฏิกิริยากลายเป็นพิษ”
ว่าถึงพิษของขยะคอมพิวเตอร์อันตรายที่สุดถึงชีวิต สารฟอสฟอรัส…เคลือบผิวหน้าภายในหลอดรังสีแคโทด…จอภาพ แม้ไม่มีรายงานระบุชัดเจน แต่ในการทหารเรือเตือนว่า…สารนี้มีความเป็นพิษสูงมาก อาจมีผลต่อผิวหนัง ระบบการย่อยอาหาร หากได้รับในปริมาณมากทำให้ถึงตายได้
***แบเรียม…เคลือบผิวด้านหน้าจอภาพ ป้องกันการแผ่รังสี ผลกระทบระยะสั้นทำให้สมองบวม กล้ามเนื้ออ่อนล้า ทำลายหัวใจ…ตับ…ม้าม
***ปรอท…ในสวิตช์ จอภาพแบบแบน ได้รับในปริมาณสูงจะส่งผลต่อสมอง ตับ ไต
***แคดเมียม…จากแผงวงจร แบตเตอรี่ จอภาพแบบเก่า สะสมในร่างกายมากๆจะทำให้เป็นโรคไต กระดูกผุกร่อน
***ตะกั่ว…จากหลอดรังสีแคโทด ปะเก็น โลหะบัดกรีบนแผงวงจร ทำลายระบบประสาทส่วนกลางและคู่ขนาน ระบบโลหิต ส่งผลต่อการพัฒนาสมองของเด็ก
“พิษตะกั่วสะสมในบรรยากาศ อาจเกิดผลแบบเฉียบพลัน หรือเรื้อรังกับพืช สัตว์ และจุลชีพ”
***แบริลเลียม…จากแผงวงจรหลัก เป็นสารก่อมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งปอด ผู้ที่ได้รับสารนี้อย่างต่อเนื่องจากการสูดดม จะกลายเป็นโรค Beryllicosis ที่มีผลกับปอด…หากสัมผัสถูกผิวหนังโดยตรงจะเกิดแผลรุนแรง
สารทนไฟทำจากโบรมีน สาร Plybromited Diphenylethers (PBDE) มีผลต่อการพัฒนาสมองเด็ก และมีผลต่อการเจริญเติบโตของตัวอ่อนในครรภ์
สุดท้าย…***พลาสติก องค์ประกอบในส่วนต่างๆของเครื่องคอมพิวเตอร์ หากนำไปเผาจะเกิดสารไดออกซิน ส่งผลต่อคุณภาพอากาศและมนุษย์…เมื่อสูดดมเข้าไป
การทำลายเป็นการกำจัดปัญหาที่รวดเร็ว หลายฝ่ายอาจมองว่ามีต้นทุนน้อย หากพิจารณาในระยะยาว…การทำลายมีต้นทุนสูงกว่า มีต้นทุนแฝงมากกว่า…ไม่ว่าค่ากำจัดทิ้งขยะลงหลุม…ฝังกลบ ค่าที่ดิน…ค่าขุดหลุม…
ระยะยาวหากระบบกั้นแตก มลพิษรั่วออกไปนอกพื้นที่ฝังกลบ ระบบนิเวศน์ ก็จะมีปัญหา…เกิดผลเสียหายได้มากกว่า
การนำคอมพิวเตอร์มารีไซเคิลจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด ดร.ขวัญฤดี แนะนำว่า ถึงเทคโนโลยีของไทยจะรีไซเคิลไม่ได้ทั้งหมด แต่ก็ควรให้เหลือส่งกำจัด…ทำลาย… ให้น้อยที่สุด
“ขยะคอมพิวเตอร์เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า ฝังกลบต้นทุนมีแต่เพิ่ม… ขณะที่การรีไซเคิลมีแต่เพิ่มมูลค่า นำขยะมาแปรรูปเป็นของที่มีมูลค่ามากกว่า และลดการใช้ทรัพยากรให้น้อยลง
cc:http://www.com4child.org/autopagev4/show_page.php?topic_id=174&auto_id=15&TopicPk=
ใส่ความเห็น